วันนี้ (4 พ.ย.2564) เวลา 09.30 น.ณ ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จว.กระบี่ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุริยา รัตนกาญจนพันธ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดกระบี่ พ.ต.อ.บริบูรณ์ อยู่สุขสมบูรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเกาะลันตา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวกรณีการจับกุมคนร้ายในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ในพื้นที่อำเภอเกาะลันตา
          สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายป้องกันปราบปราม ทำการสืบสวนจับกุมตัว นายจักรภัทร กิจเนตร อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 57 ม.2 ต.บ่อทอง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดสกัดบริเวณหน้าหน่วยบริการประชาชนตำบลเกาะลันตาน้อย ทางเข้า–ออกพื้นที่เกาะลันตา ม.2 ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด cctv และหาข้อมูลการหลบหนีของผู้ต้องหา และให้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับ นายจักรภัทร กิจเนตร ผู้ต้องหา จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น.(ของวันที่ 2 พ.ย. 64) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่า นายจักรภัทรฯ  ผู้ต้องหาได้หลบซ่อนตัวที่โรงแรมลันตาสปอทต์รีสอร์ต ภายในห้องพักหมายเลข 308 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงประสานงานกับเจ้าของโรงแรมทำการตรวจค้น สามารถจับกุมตัว นายจักรภัทร กิจเนตร ได้ในห้องพักดังกล่าว  
          การจับกุมในครั้งนี้ นายจักรภัทร กิจเนตร ผู้ต้องหา ให้การสารภาพว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ ใช้อาวุธมีดแทง พลทหารวุฒิชัยหรือแบงค์ คงผอม ผู้ตายเนื่องมาจากสาเหตุ น.ส.เกศิณี ช่วยการ อดีตภรรยาซึ่งมีบุตรด้วยกัน 3 คน กีดกันไม่ให้ผู้ต้องหาได้พบหรือพาลูกไปเที่ยวทำให้ผู้ต้องหาโกรธแค้นผู้ตายซึ่งเป็นสามีใหม่ของอดีตภรรยา จึงได้ใช้อาวุธมีดก่อเหตุแทงผู้ตายในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจได้ยึดของกลางอาวุธมีด จำนวน 1 เล่ม เสื้อผ้าสวมใส่ในวันเกิดเหตุ และควบคุมตัวนายจักรภัทรฯผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเกาะลันตา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
         พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ กล่าวเน้นย้ำว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ยังคงยืนหยัด ตั้งใจและทุ่มเทที่จะระดมสรรพกำลังในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรัฐบาล